โครงงานภูมิปัญญาท้องถิ่น (หมาตักน้ำ)
บทคัดย่อ
หมาตักน้ำ
เป็นของใช้อย่างหนึ่งของชาวนครศรีธรรมราช ใช้สำหรับตักน้ำ จากห้วย หนอง คลอง สระ
ในการทำหมาตักน้ำนั้น ชาวบ้านทางใต้นิยมทำ" หมาจาก" มากกว่าชนิดอื่น ๆ
คำว่า "หมา" นี้ บางทีก็เรียก ติหมา หรือ ตีหมา ผู้รู้กล่าวว่าไม่ใช่คำไทยแท้ แต่เป็นคำที่มาจากภาษามลายู คือคำว่า Timba ซึ่งหมายถึงภาชนะตักน้ำที่ทำจากใบจาก หรือ กาบ
หมา ติหมา ตีหมา เป็นภาชนะตักน้ำอย่างหนึ่งของชาวภาคใต้ ทำด้วยกาบหรือใบของพืชตระกูลปาล์มที่หาได้ในท้องถิ่น การเรียกชื่อบางครั้งจึงมีชื่อของพืชที่นำมาเป็นวัสดุทำต่อท้ายด้วย เช่น
-ถ้าทำจากใบจากก็เรียกว่า"หมาจาก"
-ถ้าทำจากต้อหมาก (กาบหมาก) ก็เรียกว่า "หมาต้อ"
-ถ้าทำจากกาบเหลาชะโอนก็เรียกว่า "หมาต้อหลาวโอน" (หรือ "หมาต้อ" เช่นเดียวกัน)
ในการทำหมาตักน้ำนั้น ชาวบ้านทางใต้นิยมทำ" หมาจาก" มากกว่าชนิดอื่น ๆ
คำว่า "หมา" นี้ บางทีก็เรียก ติหมา หรือ ตีหมา ผู้รู้กล่าวว่าไม่ใช่คำไทยแท้ แต่เป็นคำที่มาจากภาษามลายู คือคำว่า Timba ซึ่งหมายถึงภาชนะตักน้ำที่ทำจากใบจาก หรือ กาบ
หมา ติหมา ตีหมา เป็นภาชนะตักน้ำอย่างหนึ่งของชาวภาคใต้ ทำด้วยกาบหรือใบของพืชตระกูลปาล์มที่หาได้ในท้องถิ่น การเรียกชื่อบางครั้งจึงมีชื่อของพืชที่นำมาเป็นวัสดุทำต่อท้ายด้วย เช่น
-ถ้าทำจากใบจากก็เรียกว่า"หมาจาก"
-ถ้าทำจากต้อหมาก (กาบหมาก) ก็เรียกว่า "หมาต้อ"
-ถ้าทำจากกาบเหลาชะโอนก็เรียกว่า "หมาต้อหลาวโอน" (หรือ "หมาต้อ" เช่นเดียวกัน)
แต่บางคนก็ใช้คำว่า "หมา"
"ติหมา" หรือ "หมาตักน้ำ" รวม ๆ
กันไปโดยไม่คำนึงถึงวัสดุที่ใช้ทำในท้องถิ่นบางแห่ง
จังหวัดนครศรีธรรมราชมีการใช้คำว่า "หมา" ในความหมายที่กว้างออกไป หมายถึงภาชนะตักน้ำปัจจุบันเรียกภาชนะตักน้ำที่ทำด้วยสังกะสี
อะลูมิเนียม หรือเหล็กว่า "หมาถัง" หรือ "หมาถั้ง" ที่ทำด้วยพลาสติกก็เรียกว่า "หมาพลาสติก" อันเป็นการรักษาชื่อเต็มที่ขึ้นต้นด้วย "หมา" เอาไว้
ในจังหวัดนครศรีธรรมราชมีภาชนะตักน้ำที่ทำทั้งกาบหมาก กาบต้นหลาวโอนและใบของต้นจากแต่ไม่ได้ทำด้วยสิ่งเหล่านี้ในทุกท้องที่ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับในท้องที่นั้นจะมีสิ่งใดที่ใช้ทำ ปัจจุบันนี้แม้ภาชนะตักน้ำที่ทำด้วยสังกะสี (ซึ่งเรียกว่าถัง) หรือพลาสติกจะเข้าไปแทนที่หมากตักน้ำที่ชาวนครใช้มาแต่โบราณมากขึ้น แต่หมาตักน้ำก็ยังคงมีใช้กันอยู่ในครัวเรือนไม่น้อย โดยเฉพาะ 'หมาจาก' ซึ่งเป็นหัตถกรรมที่มีชื่อเสียงของชาวบ้านแถบลุ่มน้ำปากพนัง อำเภอเชียรใหญ่และอำเภอหัวไทร อันเป็นบริเวณที่มีต้นจากขึ้นอยู่ชุกชุม
ในจังหวัดนครศรีธรรมราชมีภาชนะตักน้ำที่ทำทั้งกาบหมาก กาบต้นหลาวโอนและใบของต้นจากแต่ไม่ได้ทำด้วยสิ่งเหล่านี้ในทุกท้องที่ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับในท้องที่นั้นจะมีสิ่งใดที่ใช้ทำ ปัจจุบันนี้แม้ภาชนะตักน้ำที่ทำด้วยสังกะสี (ซึ่งเรียกว่าถัง) หรือพลาสติกจะเข้าไปแทนที่หมากตักน้ำที่ชาวนครใช้มาแต่โบราณมากขึ้น แต่หมาตักน้ำก็ยังคงมีใช้กันอยู่ในครัวเรือนไม่น้อย โดยเฉพาะ 'หมาจาก' ซึ่งเป็นหัตถกรรมที่มีชื่อเสียงของชาวบ้านแถบลุ่มน้ำปากพนัง อำเภอเชียรใหญ่และอำเภอหัวไทร อันเป็นบริเวณที่มีต้นจากขึ้นอยู่ชุกชุม
การทำหมาตักน้ำด้วยใบจาก เริ่มด้วยตัดเอายอดจากซึ่งเป็นยอดอ่อนที่รวมกันแน่นไม่แตกออกเป็นใบ
มาจัดเอาแต่ใบ นำใบไปตากแดดพอหมาด ๆ
แล้วนำไปสอด การสอดหมาจากต้องคลี่ใบออกข้างหนึ่งแล้วสอดต่อกันกลับหัวกลับหางไปเรื่อย
ๆ จนได้ขนาดตามที่ต้องการจึงรวบหัวรวบท้ายเข้าประสนกันม้วนกลม
แล้วใช้ก้านใบจากผูกฝึกไว้ ก็ได้หมาจากตามต้องการ
และถ้าจะให้สวยงามและทนทานก็ใช้หวายหรือคล้าแทง เย็บรอยต่อระหว่างใบจากแต่ละใบเพื่อกันไม่ให้หลุดได้ง่ายด้วย
บทที่ 1
บทนำ
แนวคิดที่มาและความสำคัญ
ในปัจจุบันเทคโนโลยีได้เข้ามามีบทบาทต่อการดำรงชีวิตของคนไทยเป็นอย่างมาก
และเศรษฐกิจของไทยก็เป็นไปตามกระแสทุนนิยม ส่งผลทำให้วิถีชาวบ้านเปลี่ยนแปลงไป
พร้อมกับส่งผลทำให้เยาวชนไทยไม่ตระหนักถึงความสำคัญของภูมิปัญญาไทย ขาดจิตสำนึกความเป็นไทย
โครงการภูมิปัญญาไทยภาคใต้จึงเป็นแนวทาง/ทางเลือกให้กับคนในชุมชนทางด้านการนำภูมิปัญญาไทยไปใช้
และครั้งนี้ก็ได้ทำโครงงาน เรื่องหมาตักน้ำภูมิปัญญาท้องถิ่นภาคใต้
ซึ่งเป็นความรู้ความสามารถของชาวบ้าน
ที่มีการปรับตัวและนำวัสดุใกล้ตัวมาประดิษฐ์ออกมาเป็นนวัตกรรมใหม่เพื่อใช้สอย ในที่นี้คือการนำกาบของต้นหมากมาประดิษฐ์เป็นภาชนะตักน้ำเรียกว่า
“หมาตักน้ำ”
ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่สั่งสมมาตั้งแต่ปู่ย่าตายาย เกิดจากประสบการณ์
หรือการสะสมความรู้ ลองผิด ลองถูก มาหลายยุคหลายสมัย
วัตถุประสงค์
1.เพื่อเป็นแนวทาง/ทางเลือกให้กับคนในชุมชนทางด้านการการนำภูมิปัญญาไทยไปใช้ในการดำรงชีวิต
2.เพื่อให้คนในชุมชนและเยาวชนไทยตระหนักถึงความสำคัญของภูมิปัญญา
เห็นคุณค่าของภูมิปัญญาไทย และภูมิใจในความเป็นไทย
หลักการและทฤษฎี
หมาตักน้ำเป็นเครื่องใช้ของชาวบ้านภาคใต้แทบทุกจังหวัด
ส่วนใหญ่ทำจากกาบหมาก ที่เรียกว่า ต้อ เมื่อทำเสร็จแล้วจึงเรียกว่า หมาต้อ
การทำหมาตักน้ำ
จากกาบหมากเริ่มด้วยการนำกาบหมากที่มีขนาดพอเหมาะ ตัดส่วนล่างที่เป็นใบออก
ถ้ากาบหมากแห้งเกินไปต้องนำไปแช่น้ำให้นิ่มก่อน ม้วนปลายของกาบหมากทั้งสองด้านให้กลม
ด้านหนึ่งใหญ่อีกด้านหนึ่งเล็ก พับทั้งสองด้านขึ้น
ใช้ปลายกาบด้านเล็กสอดเข้าไปในรูของด้านใหญ่ แล้วใช้หวายหรือเชือกที่คงทนผูกยึดไว้
ขอบเขตของโครงงาน
1.ศึกษาค้นคว้าจากอินเตอร์เน็ต
2.ศึกษาค้นคว้าจากหนังสือที่ห้องสมุด
สถานที่
วิทยาลัยนาฏศิลปนครศรีธรรมราช ต.ท่าเรือ
อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช
ผลประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ
1.บุคคลทั่วไปในชุมชนมีแนวทาง/ทางเลือกด้านการการนำภูมิปัญญาไทยไปใช้ในการดำรงชีวิต
2.บุคคลทั่วไปในชุมชนและเยาวชนไทยตระหนักตระหนักถึงความสำคัญของภูมิปัญญา เห็นคุณค่าของภูมิปัญญาไทย
และภูมิใจในความเป็นไทย
บทที่ 2
เอกสารที่เกี่ยวข้อง
ประวัติความเป็นมาของ หมาตักน้ำ
หมาตักน้ำ
เป็นของใช้อย่างหนึ่งของชาวนครศรีธรรมราช ใช้สำหรับตักน้ำ จากห้วย หนอง คลอง สระ ในการทำหมาตักน้ำนั้น
ชาวบ้านทางใต้นิยมทำ" หมาจาก" มากกว่าชนิดอื่น ๆ
คำว่า "หมา" นี้
บางทีก็เรียก ติหมา หรือ ตีหมา ผู้รู้กล่าวว่าไม่ใช่คำไทยแท้
แต่เป็นคำที่มาจากภาษามลายู คือคำว่า Timba ซึ่งหมายถึงภาชนะตักน้ำ ที่ทำจากใบจาก หรือ กาบ หมา ติหมา ตีหมา เป็นภาชนะตักน้ำอย่างหนึ่งของชาวภาคใต้
ทำด้วยกาบหรือใบของพืชตระกูลปาล์มที่หาได้ในท้องถิ่น
การเรียกชื่อบางครั้งจึงมีชื่อของพืชที่นำมาเป็นวัสดุทำต่อท้ายด้วย เช่น
-ถ้าทำจากใบจากก็เรียกว่า"หมาจาก"
-ถ้าทำจากต้อหมาก (กาบหมาก) ก็เรียกว่า "หมาต้อ"
-ถ้าทำจากกาบเหลาชะโอนก็เรียกว่า "หมาต้อหลาวโอน" (หรือ "หมาต้อ" เช่นเดียวกัน)
-ถ้าทำจากใบจากก็เรียกว่า"หมาจาก"
-ถ้าทำจากต้อหมาก (กาบหมาก) ก็เรียกว่า "หมาต้อ"
-ถ้าทำจากกาบเหลาชะโอนก็เรียกว่า "หมาต้อหลาวโอน" (หรือ "หมาต้อ" เช่นเดียวกัน)
แต่บางคนก็ใช้คำว่า "หมา"
"ติหมา" หรือ "หมาตักน้ำ" รวม ๆ
กันไปโดยไม่คำนึงถึงวัสดุที่ใช้ทำในท้องถิ่นบางแห่ง จังหวัดนครศรีธรรมราชมีการใช้คำว่า "หมา" ในความหมายที่กว้างออกไป หมายถึงภาชนะตักน้ำ ปัจจุบันเรียกภาชนะตักน้ำที่ทำด้วยสังกะสี
อะลูมิเนียม หรือเหล็กว่า "หมาถัง" หรือ "หมาถั้ง" ที่ทำด้วยพลาสติกก็เรียกว่า "หมาพลาสติก" อันเป็นการรักษาชื่อเต็มที่ขึ้นต้นด้วย "หมา" เอาไว้ ในจังหวัดนครศรีธรรมราชมีภาชนะตักน้ำที่ทำทั้งกาบหมาก กาบต้นหลาวโอนและใบของต้นจากแต่ไม่ได้ทำด้วยสิ่งเหล่านี้ในทุกท้องที่ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับในท้องที่นั้นจะมีสิ่งใดที่ใช้ทำ ปัจจุบันนี้แม้ภาชนะตักน้ำที่ทำด้วยสังกะสี (ซึ่งเรียกว่าถัง) หรือพลาสติกจะเข้าไปแทนที่หมากตักน้ำที่ชาวนครใช้มาแต่โบราณมากขึ้น แต่หมาตักน้ำก็ยังคงมีใช้กันอยู่ในครัวเรือนไม่น้อย โดยเฉพาะ 'หมาจาก' ซึ่งเป็นหัตถกรรมที่มีชื่อเสียงของชาวบ้านแถบลุ่มน้ำปากพนัง อำเภอเชียรใหญ่และอำเภอหัวไทร อันเป็นบริเวณที่มีต้นจากขึ้นอยู่ชุกชุมการทำหมาตักน้ำด้วยใบจาก เริ่มด้วยตัดเอายอดจากซึ่งเป็นยอดอ่อนที่รวมกันแน่นไม่แตกออกเป็นใบ มาจัดเอาแต่ใบ นำใบไปตากแดดพอหมาด ๆ แล้วนำไปสอด การสอดหมาจากต้องคลี่ใบออกข้างหนึ่งแล้วสอดต่อกันกลับหัวกลับหางไปเรื่อย
ๆ จนได้ขนาดตามที่ต้องการจึงรวบหัวรวบท้ายเข้าประสนกันม้วนกลม แล้วใช้ก้านใบจากผูกฝึดไว้ ก็ได้หมาจากตามต้องการ และถ้าจะให้สวยงามและทนทานก็ใช้หวายหรือคล้าแทง เย็บรอยต่อระหว่างใบจากแต่ละใบเพื่อกันไม่ให้หลุดได้ง่ายด้วย
หมาจากนอกจากจะใช้ตักน้ำแล้วยังใช้วิดน้ำในเรือ ตักน้ำผึ้งจากกะทะ ตักน้ำล้างหน้า ล้างเท้า ใช้เก็บสิ่งของต่าง ๆ นับได้ว่าหมาจากเป็นสิ่งอำนวยประโยชน์ได้อย่างกว้างขวาง ยิ่งไปกว่านั้นหมาจากยังกลายเป็นสินค้าพื้นเมืองที่ชาวต่างถิ่นนำไปใช้เป็นภาชนะใส่ของหรือใช้ปลูกต้นไม้ประดับแขวนซึ่งมีความแปลกตาไปอีกรูปแบบหนึ่ง
ชนิดของหมา
1. ชนิดตามลักษณะของการผูกปลายของตัวหมาให้เป็นที่ถือคือ "หมาโผ้" (โผ้ - ตัวผู้) หมายถึง
หมาที่เอาปลายทั้ง 2 มาผูกไขว้กัน
2."หมาเหมีย"(เหมีย -
ตัวเมีย) หมายถึงหมาที่เอาปลายทั้ง 2 ข้างมาสอดผูกแนบกัน
ประโยชน์ของหมา
นอกจากทำด้วยวัสดุที่หาง่ายในท้องถิ่นภาคใต้
และราคาไม่แพงแล้ว ยังเป็นสิ่งที่มีคุณสมบัติเหมาะสมต่อการใช้อีกหลายประการ
เช่นมีน้ำหนักเบา มีที่ยึดถือหรือสำหรับผูก
และสามารถตะแคงหรือคว่ำตัวได้เองเพียงแต่วางบนผิวน้ำ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงวัฒนธรรมของการคิดที่สัมพันธ์กับการใช้ของชาวบ้าน หมาจึงเป็นภาชนะที่นิยมใช้กันทั่วไปในภาคใต้
โดยเฉพาะอย่างยิ่งการใช้ตักน้ำในบ่อ ในสระ หรือในพัง
ซึ่งผู้ใช้ไม่ต้องออกแรงกระตุกเหมือนการใช้ภาชนะสมัยใหม่อื่น ๆ
นอกจากนั้นชาวบ้านยังใช้หมาในทางอื่น ๆ อีก เช่น ใช้วิดน้ำเรือ
ตลอดจนใช้ตักน้ำอย่างเช่นภาชนะตักน้ำอื่น ๆ ทั่วไปด้วยหมาเป็นเครื่องใช้ตักน้ำที่ทดแทนการใช้ขันน้ำพลาสติก
หรือขันน้ำจากวัสดุสังเคราะห์อื่นๆ โดยทำง่าย
ไม่เสียค่าใช้จ่ายเพราะวัสดุได้มาจากธรรมชาติและช่วยอนุรักสิ่งแวดล้อมด้วย
บทที่ 3
|
วิธีการดำเนินงาน
วิธีดำเนินการศึกษาค้นคว้า
การศึกษาครั้งนี้ผู้ศึกษาได้ดำเนินการศึกษาค้นคว้าตามลำดับดังต่อไปนี้
1. ขั้นศึกษาข้อมูล
1.1 ขั้นสำรวจและศึกษาเอกสารที่เกี่ยวข้อง
โดยการสำรวจและศึกษาจากเอกสารหรืออินเตอร์เน็ตที่ให้ความรู้เกี่ยวกับเรื่องภูมิปัญญาไทย
หมาตักน้ำ
1.2 ศึกษาวัสดุ อุปกรณ์และวิธีทำ
หมาตักน้ำ จากสื่ออินเตอร์เน็ตและเอกสารที่เกี่ยวข้อง
2. ขั้นเก็บรวบรวมข้อมูล
2.1
ได้มีการเก็บรวมรวมข้อมูลจากการสำรวจและศึกษาจากเอกสารที่ให้ความรู้เกี่ยวกับเรื่องภูมิปัญญา
หมาตักน้ำ
2.2
ได้เก็บรวบรวมข้อมูลจากการได้ศึกษาค้นคว้าและนำมาบูรนาการ
3. ขั้นวิเคราะห์ข้อมูล
นำข้อมูลที่เก็บรวบรวมได้มาศึกษา
และวิเคราะห์ตามวัตถุประสงค์และเรียบเรียงนำเสนอในเชิงความเรียง
อุปกรณ์ที่ใช้ในการทำ
1.กาบหมาก /ยอดจาก
2.หวายหรือเชือก
3.ไม้ไผ่
บทที่ 4
ผลการศึกษา
ขั้นตอนการทำหมาตักน้ำ
หมาตักน้ำที่ทำมาจาก “ จาก ”
1. ตัดเอายอดจาก โดยใช้ยอดอ่อนของใบจากที่ใบยังรวมกันแน่นไม่แตกออก
ตัดออกมาเป็นใบ ๆ
2. นำยอดจากที่ได้คัดเลือกมาตัดเอาใบที่เห็นว่ามีขนาดที่จะนำมาทำหมาจากได้
3. ตัดโคนและปลายใบทิ้ง
แล้วนำไปตากแดดให้พอหมาดๆ เพื่อให้สอดได้สะดวก
4. นำใบมาสอด
การสอดต้องคลี่ใบออกข้างหนึ่งแล้วสอดให้แต่ละข้างใบสลับโคน-ปลาย
ไปเรื่อยๆเพื่อให้ปลายทั้งสองข้างมีขนาดเท่ากัน
5. เมื่อสอดได้ตามขนาดที่ต้องการ ก็รวบปลายทั้งสองข้างเข้าหากัน เพื่อใช้เป็นที่จับ
6.เสร็จสมบูรณ์พร้อมใช้
หมาตักน้ำที่ทำมาจาก
“ หมากต้อ(กาบหมาก) ”
1. เลือกกาบหมากสุก
ซึ่งเป็นกาบที่ไม่อ่อนและไม่แห้งเกินไป ความกว้างประมาณ 10 เซนติเมตร ความยาวประมาณ 30-35 เซนติเมตร พร้อมกับเตรียมไม้ไผ่เพื่อไว้รับน้ำหนักตรงส่วนด้ามของหมาตักน้ำ
2.พับปลายกาบทั้งสองข้าง
และผูกติดกันหรือใช้ไม้กลัดเพื่อทำเป็นที่จับเวลาตักน้ำและเย็บส่วนกลางของด้ามจับให้เป็นแนวตรงเพื่อช่วยพยุงในการรับน้ำหนัก
และใช้หวายหรือเชือกมาผูกที่ด้ามให้แน่น
3.เสร็จสมบูรณ์พร้อมใช้
บทที่ 5
สรุป อภิปรายผล และข้อเสนอแนะ
การวิจัยเรื่องหมาตักน้ำ
ผู้จัดทำได้วิจัยเพื่อมาศึกษาประวัติ วิธีการทำและวิธีการใช้
ทำให้ได้รู้ถึงรูปแบบวิธีการทำ และการใช้ชีวิตที่พอเพียงอย่างสร้างสรรค์แล้วยังเป็นการส่งเสริมและอนุรักษ์ภูมิปัญญาวัฒนธรรมของชุมชนในท้องถิ่นภาคใต้อันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะที่สมควรรับการส่งเสริม
และอนุรักษ์ตลอดไป
จากการศึกษาพบว่าในจังหวัดนครศรีธรรมราชมีภาชนะตัดน้ำที่ทำทั้งกาบหมาก กาบต้นหลาวโอนและใบของต้นจากแต่ไม่ได้ทำด้วยสิ่งเหล่านี้ในทุกท้องที่
ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับในท้องที่นั้นจะมีสิ่งใดที่ใช้ทำ ปัจจุบันนี้แม้ภาชนะตักน้ำที่ทำด้วยสังกะสี (ซึ่งเรียกว่าถัง)
หรือพลาสติกจะเข้าไปแทนที่หมากตักน้ำที่ชาวนครใช้มาแต่โบราณมากขึ้น
แต่หมาตักน้ำก็ยังคงมีใช้กันอยู่ในครัวเรือนไม่น้อย โดยเฉพาะ หมาจาก ซึ่งเป็นหัตถกรรมที่มีชื่อเสียงของชาวบ้านแถบลุ่มน้ำปากพนัง
อำเภอเชียรใหญ่และอำเภอหัวไทร อันเป็นบริเวณที่มีต้นจากขึ้นอยู่ชุกชุม
ประโยชน์ที่ได้รับ
1.
ทราบถึงประวัติและวิธีการทำหมาตักน้ำภูมิปัญญาของชาวภาคใต้
2.
เพื่อเป็นการส่งเสริมให้ชุมชนมีบทบาทในการพัฒนาเศรษฐกิจสังคม
และรักษาขนบธรรมเนียมประเพณี และวัฒนธรรมของท้องถิ่น
3. ได้มีความรู้และยอมรับในความคิดสร้างสรรค์ของบรรพบุรุษ
4.สามารถนำความรู้นี้มาเป็นตัวอย่างในการปรับใช้ในชีวิตประจำวันได้
5.บุคคลทั่วไปในชุมชนและเยาวชนไทยตระหนักตระหนักถึงความสำคัญของภูมิปัญญา
เห็นคุณค่าของภูมิปัญญาไทยและภูมิใจในความเป็นไทย
ข้อเสนอแนะ
การวิจัยเรื่อง หมาตักน้ำเพื่อประกอบการศึกษาข้อมูล ผู้วิจัยมีข้อเสนอแนะดังต่อไปนี้
1. ข้อเสนอแนะทั่วไป
1.1 ควรจะนำผลจากการศึกษาค้นคว้าครั้งนี้ไปปรับใช้
หรือบอกต่อคนในชุมชนอื่นๆที่สนใจเพื่อ อนุรักษ์
และสืบสานต่อไป
1.2 ควรจะนำผลการศึกษาค้นคว้าในครั้งนี้เผยแพร่ให้กับบุคคลที่สนใจ
หรือเยาวชนเพื่อนำไปพัฒนาความคิดของเยาวชนสมัยใหม่
ให้รู้จักใช้ความคิดบวกกับการหันกลับมามองวัสดุในท้องถิ่น
แล้วสร้างสรรค์มาเป็นเครื่องมือเครื่องใช้ ตามที่บรรพบุรุษได้ทำต่อๆกันมา
2. ข้อเสนอแนะเพื่อการทำวิจัยครั้งต่อไป
2.1 ควรจะได้ศึกษา
รูปแบบวิถีชีวิตว่าการประกอบอาชีพเป็นอย่างไร
และควรจะศึกษาข้อแตกต่างจากหลายๆชุมชนเพิ่มเติม
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
นายชิตพล ดวงสุวรรณ
นางสาวปวันรัตน์ พรหมทอง